ไต้หวันใช้เวลากว่าครึ่งศตวรรษก้าวขึ้นเป็นผู้นำการผลิตและส่งออก เซมิคอนดักเตอร์ หรือ “ชิป” อันดับหนึ่งของโลก จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 1987 ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม 3.0 เมื่อรัฐบาลก่อตั้ง ITRI เพื่อสนับสนุน Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไต้หวันได้เพิ่มสัดส่วนการส่งออกอย่างต่อเนื่อง กระทั่งถึงยุคดิจิทัลในปี 2007 ซึ่งความต้องการชิปพุ่งสูง ส่งผลให้ประเทศครองตลาดโลกถึง 17-20%
ปัจจุบันในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม 5.0 ที่มนุษย์ทำงานร่วมกับ AI ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิปเป็นหัวใจหลัก ไต้หวันถือครองส่วนแบ่งการผลิตชิปทั่วโลกกว่า 68% และชิปขั้นสูงถึง 90% ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก ผลักดัน GDP ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และทำให้ดัชนีตลาดหุ้นแตะระดับ 20,000 จุด
ตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ไต้หวันได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อปรับตัวให้ทันกับDigital Disruption และใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ จนสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากสหรัฐฯ และยุโรป ที่มุ่งกระจายโซ่อุปทานผ่านกฎหมาย CHIPS Act และ European Chips Act ส่งผลให้รัฐบาลไต้หวันสนับสนุนให้บริษัท TSMC ขยายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป เพื่อลดความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และรักษาสถานะของประเทศในฐานะ "Silicon Shield" หรือเกราะป้องกันเชิงกลยุทธ์ ที่ใช้ความเป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันภัยคุกคามจากจีน
ดังนั้นความเป็นผู้นำของไต้หวันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลจากปัจจัยทางประวัติศาสตร์ นโยบายรัฐ และความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีและโซ่อุปทาน ซึ่งทำให้ไต้หวันยังคงเป็นศูนย์กลางสำคัญของโลกต่อไปในทศวรรษข้างหน้า
คุณสมบัติ |
TWSE (Taiwan Stock Exchange) |
TPEX (Taipei Exchange) |
ดัชนีหลัก |
TAIEX (Taiwan Capitalization Weighted Stock Index) |
TPEX (Taipei Exchange) เดิมชื่อว่า GreTai Securities Market (GTSM) |
จำนวนบริษัทจดทะเบียน |
1,020 บริษัท |
839 บริษัท
|
ขนาดบริษัท |
บริษัทขนาดใหญ่
ทุนชำระแล้วของหุ้นดังกล่าวคือ 600 ล้านเหรียญไต้หวันหรือมากกว่า และจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายต่อสาธารณะคือ 30 ล้านหุ้นหรือมากกว่า |
บริษัทขนาดกลาง-เล็ก |
ลักษณะอื่นๆ |
Information Technology 68% |
Information Technology 60% |
ทำความรู้จักกับ “ตลาดไต้หวัน”
“ตลาดหุ้นไต้หวันที่ใช้เวลา 36 ปี ดัชนีแตะ หมื่นจุด แต่ใช้เวลาเพียง 5 ปี ทะลุ สองหมื่นจุด ”
ตลาดหุ้นไต้หวันเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากบทบาทผู้นำด้านการผลิตและส่งออกชิป อันเป็นปัจจัยหนุนให้ GDP ขยายตัว และดัชนีตลาดหุ้นพุ่งสูงขึ้นสู่ 20,000 จุดม และจากศักยภาพในด้านเทคโนโลยีจึงดึงดูดเงินทุนต่อเนื่องมา จนดัชนี น้ำหนักในดัชนี MSCI Emerging Markets Index ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 19.2% ในปี 2024 ซึ่งเติบโตเฉลี่ย 9% ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นไต้หวันมี 2 ตลาดหลัก ที่นักลงทุนควรรู้จัก ได้แก่
• Taiwan Stock Exchange (TWSE) – ตลาดหลักที่ก่อตั้งในปี 1961 มีบริษัทขนาดใหญ่ เช่น TSMC, Foxconn และ MediaTek โดย 68% ของตลาดเป็นหุ้นเทคโนโลยี แม้จะมีหุ้นเทคสูง แต่ดัชนียังอยู่ในระดับน่าสนใจด้วย P/E/G = 1.47 ต่ำกว่าตลาดหุ้นชั้นนำ เช่น S&P 500 (2.18) และ CSI 300 (2.86) พร้อมคาดการณ์ผลตอบแทนเงินปันผล 2.70% ต่อปี
• Taipei Exchange (TPEX) – ตลาดสำหรับบริษัทขนาดกลาง-เล็ก มีค่า P/E/G เพียง 0.66 และให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงกว่าตลาดหลักที่ 3.13% ต่อปี
จุดเด่นของตลาดหุ้นไต้หวันคือ การผสมผสานระหว่างหุ้นเติบโตสูงและหุ้นจ่ายปันผลดี ซึ่งหาได้ยากในตลาดอื่น ส่งผลให้ในปี 2024 ตลาดหุ้นไต้หวันดึงดูดเงินลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $37,196M และเงินทุนไหลเข้าสู่หุ้นและ ETF อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันแตะ $284,123M

กองทุนเปิด แอล เอช ไต้หวัน โกรท แอนด์ ไฮ ดิวิเดนด์ (LHTWGHD) ที่เน้นลงทุนในหน่วย หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ (หรือ “กองทุนหลัก (Master fund)”) เพียงกองทุนเดียว ได้แก่กองทุน CTBC TIP Customized Taiwan Growth and High Dividend ETF (“กองทุนหลัก”) หน่วยลงทุนสะสมทรัพย์ และ Auto Redeem
กองทุนเปิด LHTWGHD: ทางเลือกการลงทุนในไต้หวัน
การบริหารจัดการแบบ Active โดยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นจาก CTBC Investments บริษัทในเครือ CTBC Financial Holding สถาบันการเงินชั้นนำของไต้หวัน ที่มีสาขาทั่วโลก และได้รับการยอมรับในความสามารถด้านการลงทุน
กลยุทธ์กองทุน
- ลงทุนหลัก ไม่น้อยกว่า 80% ใน CTBC TIP Customized Taiwan Growth and High Dividend ETF (00934 ETF) ซึ่งใช้กลยุทธ์บริหารเชิงรุก ปรับน้ำหนักการลงทุนตามฤดูกาล
- ช่วงจ่ายปันผล (เม.ย.): เน้นการลงทุนหุ้นปันผล (หุ้นปันผล 50% + หุ้นคุณภาพ 30% + หุ้นเติบโต 20%)
- ช่วงไม่จ่ายปันผล (ก.ย.): เน้นการลงทุนหุ้นเติบโต (หุ้นปันผล 20% + หุ้นคุณภาพ 30% + หุ้นเติบโต 50%)
ศักยภาพการเติบโต
- ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของ CTBC TIP Customized Taiwan Growth and High Dividend ETF (00934 ETF) อยู่ที่ประมาณ 7.79% ซึ่งสูงกว่า TWSE Index ที่ 4.34%
- ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนวันเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ของจำนวนวันที่ราคาหุ้นจะฟื้นตัวหลังจ่ายปันผล CTBC TIP Customized Taiwan Growth and High Dividend ETF (00934 ETF) ทำได้เหนือชั้นกว่าดัชนีหุ้นปันผลที่สำคัญตัวอื่น ๆ ของไต้หวัน
- ตัวอย่างหุ้นในพอร์ตการลงทุน ที่ผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นคัดสรรมาให้ เช่น
- MediaTek Inc. ผู้ผลิตชิป 5G ที่กำลังก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟน
- Uni-President Enterprises Corp. บริษัทอาหารรายใหญ่ที่สุดของไต้หวันอันดับ 12 ของโลก
เวลานี้ถึงใช่ “กองทุนเปิด LHTWGHD”
สถานการณ์การลงทุนในปี 2025 ที่แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยลดลงจากปีก่อน แต่ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เคยชะลอตัวลงกลับเริ่มไม่ลดลงสู่กรอบเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ ดังนั้นด้วยกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องและการมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของหุ้นที่มีคุณภาพสูง ถือเป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้ดี เพราะช่วยลดความผันผวนของตลาด ทั้งในช่วงตลาดขาลง และ สร้างโอกาสคว้าผลตอบแทนในช่วงตลาดขาขึ้น
“กองทุนเปิด LHTWGHD” คือคำตอบสำหรับนักลงทุน ที่กำลังมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากทั้งหุ้นปันผลและหุ้นเติบโต
กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ เติบโตพร้อมตลาดไต้หวัน ผ่านหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำ และได้รับ เงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ พร้อมการบริหารเชิงรุกที่สามารถปรับตัวได้ตามสภาวะตลาด
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

High Dividend Income x High Capital Gain beat Benchmark and control Drawdown

