มุมมองการลงทุนประจำสัปดาห์
เอลนีโญ่ คือปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นและแล้งจัด ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพืชพันธุ์การเกษตรที่พึ่งพาน้ำ อย่าง อ้อย จนสร้างผลพ่วงไปยังอุปทานน้ำตาลโลกปรับลดลง เป็นเหตุให้ในเวลานี้ แนวโน้มราคาน้ำตาลโลกมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดตั้งแต่ปี 2016 ซึ่ง บราซิล เป็นประเทศที่ได้รับอานิสงส์ของราคาน้ำตาล และสภาพอากาศที่บราซิลรับผลของเอลนีโญ่ไม่รุนแรงเท่าประเทศที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรเท่าที่อื่นๆ
และจากผลกระทบสภาพอากาศที่เลวร้ายก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาอาหารปรับสูงขึ้น ซึ่งสหราชอาณาจักรกำลังประสบปัญหาเงินเฟ้อระดับสูง จากความขาดแคลนอุปทานอาหารสด ดังนั้นด้วยแนวโน้มของเงินเฟ้อยังคงถูกกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะเดียวกันเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรก็เข้าสู่ภาวะถดถอยจากผลของอัตราดอกเบี้ยสูง จึงเป็นเหตุให้ต้องออกนโยบายทางการคลังเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องเพื่อประคับประคองระบบเศรษฐกิจ ซึ่งทาง LH Bank Advisory แนะนำนักลงทุนหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในดัชนีหุ้นยุโรป ขณะที่นักลงทุนในระยะยาวสามารถทยอยสะสม เนื่องจากมูลค่าของดัชนียุโรปอยู่ในระดับที่ถูก
ลงทุนอย่างไร หาก El Niño กลับมา
ในครึ่งปีหลังแรงกดดันของเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ และทาง LH Bank Advisory พบว่ามีความเสี่ยงมากขึ้น หลังสภาพอากาศในปี 2023 กำลังเปลี่ยนผ่านจากลานีญา (La Niña) เข้าสู่เอลนีโญ (El Niño) ที่ถูกประเมินว่าอยู่ยาวไปอีก 3 ปี และมีความรุนแรงมากกว่าในอดีตที่โลกเคยประสบ ทั้งนี้ผลกระทบปรากฏการณ์เอลนีโญ่ คือการที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นและแล้งจัด ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพืชพันธุ์การเกษตรที่พึ่งพาน้ำ อย่าง อ้อย จนสร้างผลกระทบไปยังอุปทานน้ำตาลโลกปรับลดลง เป็นเหตุให้ในเวลานี้ ดัชนีราคาน้ำตาลโลกอยู่ในระดับ 149.6 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตั้งแต่ปี 2016
ด้วยความน่าสนใจของแนวโน้มราคาน้ำตาลโลกที่อยู่ในระดับสูง ย่อมสร้างอานิสงส์ให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำตาลได้รับประโยชน์ก็จริงอยู่ แต่ตามรายงานจากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ได้บ่งชี้ว่าปรากฏการณ์เอลนีโญ่ สร้างความเสียหายแก่ อินเดีย ให้เผชิญภัยแล้งที่รุนแรง ซึ่งอินเดียก็เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 2 ของโลก นั้นจึงแสดงถึงความเสี่ยงภาวะขาดแคลนอุปทานน้ำตาล ขณะที่ทางกลุ่ม Latin America โดยเฉพาะ บราซิล เป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลอันดับหนึ่งของโลกมีโอกาสที่ได้รับผลกระทบเอลนีโญ่ น้อยกว่าประเทศผลิตน้ำตาลอื่น ครองส่วนแบ่งของโลก 50.6% ในปี 2021 และเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญใน 5 อันดับแรกของบราซิล
จากอานิสงส์ของราคาน้ำตาล และสภาพอากาศที่บราซิลอาจรับผลของเอลนีโญ่ไม่รุนแรงเท่าประเทศที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรเท่าที่อื่น ๆ ทำให้การลงทุนในบราซิลมีความน่าสนใจ เพราะอุปทานสินค้าทางการเกษตรบราซิลไม่ได้รับความเสียหายจนกลายเป็นปัญหา ซึ่งปริมาณส่งออกสินค้าทางการเกษตรนั้นมากถึง 40% ของสินค้าส่งออกทั้งหมด ซึ่งทาง LH Bank Advisory จึงทำการประเมินถึงศักยภาพการตลาดการลงทุนของบราซิล ในประเด็นทางเศรษฐกิจ
อาหารเช้าเมืองผู้ดีที่แสนแพง
สหราชอาณาจักรเพิ่งผ่านพ้นการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ไปอย่างสมพระเกียรติเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งในเวลานี้สหราชอาณาจักรกำลังถูกจับตามองจากสายตานักลงทุนทั่วโลกสังเกตการณ์ว่าเศรษฐกิจที่กำลังเข้าสู่วิกฤตเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อันเป็นผลจากธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องจนสู่ระดับ 4.50% จาก 0.25% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่ในเวลานี้ระดับอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่า 10% ซึ่งห่างจากเป้าหมายและมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ เพราะแนวโน้มดัชนีราคาอาหารในเดือน เม.ย. พุ่งสู่ระดับ 19.2 จุด ซึ่งสะท้อนปัญหาข้าวยากหมากแพงที่รุนแรงในรอบทศวรรษ โดยเกิดจากปัญหาความขาดแคลนของอุปทาน ซึ่งต้นตอมาจากสหราชอาณาจักรพึ่งพาการนำเข้าอาหารสดถึง 60% ของที่มีในตลาด และคู่ค้าสำคัญที่มีสัดส่วน 47% ของสินค้าทั้งหมดมาจากสหภาพยุโรป เมื่อสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) จนทำให้สูญเสียตลาดปลอดภาษีกับทางยุโรป ส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้ารับผลกระทบของภาษีการค้า จากประเด็นดังกล่าวสะท้อนถึงความยากลำบากที่จะแก้ไขปัญหาเงินของสหราชอาณาจักร ขณะที่ปีนี้ปัญหาสภาพอากาศที่เลวร้ายยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาอาหารปรับสูงขึ้น จนกลายเป็นซ้ำเติมสถานการณ์เงินเฟ้อที่สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญ
ทั้งนี้ด้วยผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและยาวนานกว่าที่คาดนี้ กำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรอย่างเห็นได้ชัด และผลักดันให้ภาคเอกชนต้องแบกรับต้นทุนการเงินที่สูงและทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ลดลง จึงเป็นเหตุให้บริษัทฯ เริ่มปรับลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะ ลดการจ้างงาน จากรายงานเดือนเม.ย. พบว่าการจ้างงานพนักงานประจำลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบกว่าสองปี ขณะที่พนักงานชั่วคราวทรงตัว ซึ่งสะท้อนถึงความเปราะบางของภาคแรงงานที่อ่อนแอมากขึ้น ทาง LH Bank Advisory มีมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร โดยประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2023 หดตัวจนติดลบ 0.3% YoY ขณะเดียวกันยังประสบปัญหากับภาวะเงินเฟ้อสูง ซึ่งถือได้ว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบ Stagflation
ดังนั้นด้วยแนวโน้มของเงินเฟ้อยังคงบีบบังคับให้บีโออียังคงต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้จำเป็นที่สหราชอาณาจักรต้องออกนโยบายทางการคลังเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องเพื่อประคับประคองระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร มีโอกาสขยายความเสียหายแก่ดัชนีหุ้นยุโรปอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะ กองประเภท ETF ของยุโรป เพราะสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์สหราชอาณาจักร อยู่ในปริมาณที่มีนัยสำคัญ ซึ่งทาง LH Bank Advisory แนะนำนักลงทุนหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในดัชนีหุ้นยุโรป ขณะที่นักลงทุนในระยะยาวสามารถทยอยสะสม เนื่องจากมูลค่าของดัชนียุโรปอยู่ในระดับที่ถูก
ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2566