ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน จัดเป็นหนึ่งในเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
และส่งเสริมความยั่งยืนทางพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม แต่รายละเอียดที่ซับซ้อนและความยุ่งยากในการเข้าใจอาจเป็นอุปสรรคที่ทำให้หลายๆ
องค์กรยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ หนึ่งในประเด็นที่มักทำให้เกิดความสับสนคือความแตกต่างระหว่าง I-REC และ REC
I-REC คืออะไร I-REC (International Renewable Energy Certificate) คือ ระบบใบรับรองที่ใช้ยืนยันว่าไฟฟ้าที่ผลิต
มาจากแหล่งพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ในรูปแบบพลังงานสะอาด (Clean Energy)
เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานชีวมวล
ทั้งนี้ I-REC ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและเพิ่มความโปร่งใสในการติดตามการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งมีคุณสมบัติหลักดังนี้:
การรับรองการใช้พลังงานทดแทน : I-REC ใช้ยืนยันว่าพลังงานที่ใช้มาจากแหล่งพลังงานทดแทน ผู้ผลิตพลังงานทดแทนจะได้รับใบรับรองที่สามารถซื้อขายได้
สร้างความน่าเชื่อถือ : I-REC ช่วยให้ผู้บริโภคหรือบริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าพลังงานที่ใช้มีต้นกำเนิดจากพลังงานสะอาด สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก : การใช้ I-REC เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนา
อย่างยั่งยืน(SDGs) หรือการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero)
ความแตกต่างระหว่าง I-REC (International Renewable Energy Certificate) เป็นการรับรองจาก I-TRACK ซึ่งเป็นองค์กร
I-REC และ REC ระดับนานาชาติที่มีมาตรฐานในกว่า 60 ประเทศ
REC (Renewable Energy Certificate) เป็นคำเรียกหลักในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาโดยมีหน่วยงานรับรอง
แตกต่างกันไปตามกฎหมายของแต่ละรัฐ
GO (Guarantee of Origin) เป็นใบรับรองในยุโรปที่ออกภายใต้มาตรฐาน
European Energy Certificate System (EECS)
ความสำคัญของ I-REC การแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม : I-REC ช่วยให้โรงงานสามารถแสดงให้เห็นถึงการใช้พลังงานทดแทน
กับผู้ประกอบการ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมาย : หลายประเทศกำหนดให้ธุรกิจต้องใช้พลังงานสะอาด เพื่อให้สอดคล้อง
กับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม
การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี : การมี I-REC ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและ
ความรับผิดชอบต่อสังคม
การดึงดูดลูกค้าและนักลงทุน : การใช้พลังงานสะอาดและได้รับการรับรองจาก I-REC ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ
และดึงดูดความสนใจจากลูกค้าและนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
การลดความเสี่ยงทางธุรกิจ : การรับรอง I-REC ช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในอนาคต
เกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม
ใครบ้างที่ควรซื้อ I-REC ผู้ประกอบการที่มีการกำหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์
(Carbon Neutrality) หรือเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)
ผู้ประกอบการที่มีการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission)
ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ RE100 (องค์กรที่มุ่งมั่นใช้พลังงาน 100% จากแหล่งพลังงานทดแทน)
ผู้ประกอบการรที่มีการจัดทำรายงานความยั่งยืน ESG (Environmental, Social, and Governance)
ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดมาตรฐานส่งออก (การผลิตสินค้าให้ตรงตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
สำหรับการส่งออก)
ผู้ประกอบการที่อยู่ในโครงข่าย Supply Chain ขององค์กรข้างต้น
แหล่งอ้างอิง
https://th.gb-planet.com/services/i-rec.html
https://www.gmssolar.com/renewable-energy-certificate
https://www.recthailand.com/articles/rec-renewable-energy-certificate
https://www.recthailand.com/articles/i-rec/
หมายเหตุ
บทความฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์
ของข้อมูลเพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลควรใช้ความระมัดระวัง
ในการพิจารณาข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณของตนเอง และรับผิดชอบต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลใน
บทความนี้ ดังนั้น ข้อมูลในบทความนี้จึงไม่ถือเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจแต่อย่างใด